วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2562

สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงเป็นมะเร็ง

ผลการศึกษาในสหรัฐฯ ชี้ว่า สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนสืบพันธุ์ผิดปกติ นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งเต้านมและภาวะมีบุตรยาก

ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์จเมสันในสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่ในวารสารเอ็นไวรอนเมนต์ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวส่งผลเสียต่อฮอร์โมนของผู้หญิง รวมทั้งอาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากและมะเร็งเต้านม

โดยผลิตภัณฑ์ความงามมักจะมีส่วนผสมของสารเคมีต่างๆ เช่น พาราเบน ซึ่งเป็นสารกันเสียที่ใช้ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และเบนโซฟีโนน ซึ่งเป็นตัวกรองรังสียูวี

นักวิจัยได้รวบรวมตัวอย่างมากกว่า 500 ชิ้น จากผู้หญิง 143 คน ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 44 ปี ซึ่งไม่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และไม่ได้คุมกำเนิด การวิเคราะห์ตัวอย่างชี้ว่าผู้ที่มีสารเคมีเหล่านี้อยู่ในร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสืบพันธุ์ที่ผิดปกติ

ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไป มีความสัมพันธ์กับเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกและประจำเดือนที่ผิดปกติ แต่ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่น้อยเกินไป จะทำให้ไข่ไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ขณะเดียวกันฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มากผิดปกติก็มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม และภาวะเลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติ
ที่มา : https://news.mthai.com/world-news/673003.html

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562

ถนนลื่นรถบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำ ทำกรดใส่แบตเตอรี่รั่วที่ชลบุรี

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2562 ร.ต.อ. อิสรพงษ์ สุวรรณจักร รอง สว.สอบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกสารเคมีมาเต็มคันรถเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางโดยในขณะนี้มีสารเคมีรั่วไหลออกมาจากตู้อย่างต่อเนื่อง เหตุเกิดบนถนนสายอินโดจีนขาเข้าแหลมฉบัง ม.4 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานงานไปที่หน่วยบรรเทาและป้องกันสาธารณภัยเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เพื่อขอรถดับเพลิงสนับสนุนในที่เกิดเหตุก่อนรีบเดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา 

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้อ ฮีโน่ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน 73-3035 ชลบุรี หมายเลขทะเบียนส่วนหาง 70-5343 ชลบุรี อยู่ในสภาพพลิกคว่ำอยู่ในร่องระบายน้ำริมถนน ตู้คอนเทนเนอร์พลิกคว่ำหงายตะแคง ซึ่งภายในตู้มีสารเคมีชนิดกรดที่ใช้สำหรับแบตเตอรี่ต่างๆ อยู่จำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ จึงได้เข้าตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว โดยพบว่ามีสารเคมีรั่วไหลออกมาเป็นจำนวนมาก กลังจากนั้นจึงได้นำดินมาทับถมเพื่อกั้นสารเคมีเอาไว้และป้องกันไม่ให้สารเคมีไหลลงสู่คลองระบายน้ำ โดยมีนายอัครพล ทินกรวงศ์ อายุ 31 ปีก เป็นคนขับหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อเข้าทำการรักษาเนื่องจากคนขับมีบาดแผลถลอกตามร่างกายและเจ็บปวดตามแขนและขา 




เบื้องต้นตำรวจได้สันนิษฐานว่า รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันดังกล่าวอาจจะเสียหลักพุ่งตกลงข้างทางเนื่องจากถนนลื่นเพราะในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน โดยหลังจากนี้ก็จะต้องรอคนขับออกมาจากโรงพยาบาลไปก่อนหลังจากนั้นก็จะเรียกตัวเข้ามาสอบสวน เพื่อสรุปและหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/east/1585215

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562

กฟผ.แม่เมาะ แจง ไม่ใช่ 'ไซยาไนด์' ยัน สารเคมีรั่วไหล ปลอดภัยแล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 พ.ค.61 นายประทีป พันธ์ยก หมวดความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน มปอ.-หม. กฟผ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดที่เกิดสารเคมีรั่วไหล ที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทน 4-7 ซึ่งมีบริษัทเอกชนรับเหมาก่อสร้างจนต้องมีการอพยพพนักงานที่ทำงานอยู่ที่บริเวณดังกล่าวจำนวนหลายร้อยคน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

.
พร้อมเปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสื่อบางสำนักได้นำเสนอข่าวออกไปว่าที่จุดดังกล่าวมีสารไซยาไนด์รั่วไหลนั้นขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงเพราะที่ กฟผ.ไม่ได้นำสารเคมีดังกล่าวมาใช้ แต่ยอมรับว่าบริเวณจุดข้อต่อใกล้กับใต้ถังที่เก็บกรดไฮโดรคลอริก ซึ่งใช้ในการปรับสภาพน้ำ เกิดมีการรั่วหรือซึมเพียงเล็กน้อย ลักษณะเหมือนน้ำหยด ซึ่งกรดดังกล่าวเมื่อถูกน้ำจะเกิดเกิดเป็นไอ เมื่อมีลมพัดมาจึงทำให้กระจายไปกับลมและมีกลิ่นฉุน ซึ่งตามมาตรการด้านความปลอดภัยจึงให้พนักงานที่ปฏิบัติงานออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อรอการแก้ไข ขณะนี้พนักงานสามารถเข้าทำได้ตามปกติ โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย และกรดดังกล่าวก็ไม่ได้มีการรั่วไหลไปบริเวณภายนอกยังอยู่ในที่ขอบกั้นและไหลลงอยู่ที่กักเก็บถังด้านล่าง ไม่กระทบต่อชุมชน ส่วนรอยต่อที่มีการรั่วไหลขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขอยู่ และข่าวที่ออกมาเกินความเป็นจริงมาก
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/north/1274604

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

สาวอเมริกันฆ่าตัวตาย บ่อยแก๊สไข่เน่าตลบอบอวล อพยพแขกทั้งโรงแรม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุแปลกประหลาดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในนครซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเหตุทำให้มีผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิต และพบผู้ได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บอีก 8 คน ขณะเดียวกันได้มีการสั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่โรงแรมทั้งหมด หลังเผชิญหน้ากับวัตถุอันตรายชนิดหนึ่งที่มาในรูปแบบของกลิ่นเน่าฉุน

ตามรายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันเสาร์ (31 ส.ค.) ตามเวลาในท้องถิ่น แขกภายในโรงแรมชื่อดังได้แจ้งว่าได้กลิ่นประหลาดบางอย่างโชยออกมาทั่วบริเวณ เป็นกลิ่นคล้ายกับสารเคมีบางอย่างในลักษณะเหม็นฉุน รูปแบบเหมือนแก๊สไข่เน่า โดยผู้ที่สูดดมเข้าไปรู้สึกวิงเวียนศีรษะและหายใจติดขัด

หลังเกิดเหตุดังกล่าว ทางโรงแรมได้สั่งอพยพผู้คนนับร้อยชีวิตออกจากโรงแรมทั้งหมด เพื่อสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นหาแหล่งที่มาของกลิ่นสารเคมีที่เกิดขึ้นในโรงแรม กระทั่งพบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง โดยเธอเป็นแขกที่เช็กอินเข้าพักที่โรงแรม ก่อนจะพบเบาะแสที่เชื่อมโยงได้ว่า ห้องพักของเธอน่าจะเป็นต้นเหตุของกลิ่นประหลาดครั้งนี้ และอาจจะเป็นการจงใจฆ่าตัวตาย


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบอีเมล์ส่วนของหญิงสาวที่เสียชีวิต โดยมีข้อความและน้ำหนักที่เชื่อมโยงไปถึงสาเหตุการก่อเหตุฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้สารเคมีในรูปแบบสูดดมสารระเหย แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดที่แน่ชัด ขณะที่ตัวแทนของโรงแรมก็ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลใดๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 8 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานของโรงแรม โดยทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จากการสูดดมสารระเหยบางชนิดเข้าไป หลายคนรู้สึกดีขึ้นเหมือนได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากด้านนอกอาคาร ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นการก่อวินาศกรรมเพื่อหวังผลต่อชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม คาดว่าน่าจะเป็นก่อเหตุฆ่าตัวตายของบุคคลหนึ่งเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และเสาะหาว่าสารเคมีหรือสารระเหยที่ลอยโชยออกมานั้นเป็นสารอะไรกันแน่.
ที่มา : https://www.sanook.com/news/7883059/

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2562

หนุ่มคลั่ง บุกทุบห้องสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลบางแสนพังเละ หวิดดับคาสารเคมี

(31 มี.ค.) เฟซบุ๊กเพจ SV News ข่าวบางแสน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก รปภ.ว่ามีคนคลุ้มคลั่งบุกเข้ามาภายในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลบางแสนและทุบกระจกแตกหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมกับ รปภ. พบชายอายุประมาณ 25 ปีอยู่ในอาการคล้ายคนเมายา

โดยเจ้าหน้าที่ รปภ.พยายามเข้าไปใกล้หนุ่มคนดังกล่าวก็มีอาการตื่นตกใจและวิ่งหนีเข้าไปภายในห้อง จุลชีว ซึ่งเป็นห้องสารเคมีและห้องเก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลและพืชชนิดต่างๆ รวมถึงมีอุปกรณ์ต่างๆเครื่องตรวจสภาพน้ำและอื่นๆ ซึ่งบางอย่างมีราคาแพงเพราะต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยชายคนดังกล่าวทุบกระจกและเข้าไปภายในห้องและทุบทำลายข้าวของทุกอย่างจนพังเละ ส่วนชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดที่มือจนเลือดไหลนองเต็มห้อง


เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปควบคุมตัวแต่เข้าไปไม่ได้ เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องเก็บสารเคมีซึ่งมีกลิ่นแรงมากไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ชายคนดังกล่าวนอนนิ่งอยู่ข้างในห้องเกรงจะเสียชีวิต เพราะสารเคมีมีกลิ่นแรงมาก รปภ.จึงจะพยายามเข้าไปช่วย จนกระทั่งชายคนดังกล่าวพยายามเดินออกมาและนอนอยู่หน้าห้อง หัวหน้า รปภ.จึงพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งชายคนดังกล่าวยอมออกมาจากห้อง ชายคนดังกล่าวมีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง มีบาดแผลที่แขนและมือ จากการสอบถามทราบว่าชื่อนายพิทักษ์ อายุ 26 ปี เป็นคนจังหวัดหรองบัวลำภู มาทำงานก่อสร้าง รปภ.จึงรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาล ม.บูรพาต่อไป
ที่มา : https://news.mthai.com/general-news/630089.html

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562

พบสารเคมีรั่ว ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 เจ้าหน้าเร่งตรวจสอบ

วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุพบสารเคมีถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ บริเวณหน้า บริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ตรงข้ามซอย
กรุงเทพกรีฑา 35 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่เขตสะพานสูง ดับเพลิงหัวหมาก และห้วยขวางรุดที่เกิดเหตุ พร้อมนำเครื่องตรวจวัดสารเคมีเพื่อตรวจสอบ พบเป็นสารเคมีรั่วไหลออกมากจากบริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ลงไปที่บริเวณบ่อระบายน้ำด้านหน้าบริษัทจำนวน 3 บ่อ ทำให้น้ำในบ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 ลักษณะของน้ำเป็นสีชมพู และบ่อที่ 3



ลักษณะเป็นสีดำมีคราบน้ำมันปะปน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบชนิดของสารเคมีดังกล่าว และป้องกันสารเคมีรั่วไหลลงสู่คลองสาธารณะ ทั้งนี้ ได้มีการกั้นบริเวณโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุและห้ามประชาชนเข้าใกล้ในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบเป็นสาร Kerosene ลักษณะเป็นของเหลวไวไฟ มีคุณสมบัติกัดกร่อน pH5 กระจายตัวในท่ออระบายน้ำหน้าโรงงานประมาณ 200 เมตร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใช้กระดาษซับสารที่อยู่บริเวณผิวหน้าและตักใส่ถุง และใช้สารสลายคราบไขมันฉีดพ่น เพื่อกำจัดคราบสารเคมี
ที่มา : https://news.mthai.com/general-news/495946.html

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562

"เอาผิดเจ้าของเรือไม่ได้" ไฟไหม้ตู้สินค้าท่าเรือแหลมฉบังทำสารเคมีฟุ้ง เพราะเป็นของเกาหลี

26 พ.ค.62 - หลังเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสารฟอกขาวบนเรือสินค้าฮ่องกง สัญชาติเกาหลี ซึ่งเดินทางจากนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อนำสินค้าเข้ามาส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จนทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน และมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากบ้านและทรัพย์สินต่างๆ ถูกสะเก็ดจากสารฟอกขาวที่ระเบิดฟุ้งกระจายปลิวไปไกลในรัศมีกว่า 5 กิโลเมตร ส่งผลกระทบให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ทราบว่าเรือสินค้าสัญชาติเกาหลีที่เกิดเพลิงลุกไหม้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าเสียหายได้ เนื่องจากขณะนี้ทางตำรวจภูธรแหลมฉบังยังไม่สามารถที่จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 2 เข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากที่เกิดเหตุบนเรือ โดยเฉพาะตรงจุดที่ตู้คอนเทนเนอร์ไหม้ ไฟยังดับไม่สนิท ยังมีกลุ่มควันขึ้นมาเป็นระยะๆ ต้องให้หน่วยผจญเพลิง คอยฉีดน้ำเลี้ยงไว้ เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก

แต่ในส่วนของการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ได้รับความเดือดเรือน ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ก็ให้นำหลักฐานเป็นภาพถ่าย หรือเอาทรัพย์สินที่มาได้ ก็เข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง เพราะต้องรวบรวมผู้เสียหายหรือทรัพย์สินของผู้ได้รับความเดือดร้อน ส่งให้กับการท่าเรือแหลมฉบังต่อไป ส่วนขณะนี้สำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง พยายามที่จะช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ถึงแม้จะไม่สามารถเอาผิดจากเพลิงลุกไหม้กับทางเจ้าของเรือได้ แต่ในส่วนค่าเสียหายที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ สามารถที่จะแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง เพื่อส่งเข้ามาให้กับการท่าเรือแหลมฉบังและจ้าของเรือ ก่อนส่งให้กับประกัยภัยของเรือ มาชดใช้ค่าเสียค่าเสียหายตามความเป็นจริงต่อไป
ที่มา : https://www.sanook.com/news/7782494/

สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงเป็นมะเร็ง

ผลการศึกษาในสหรัฐฯ ชี้ว่า สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนสืบพันธุ์ผิดปกติ นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งเต้านมและภาวะมีบุตรยาก ...